หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ซอฟต์แวร์ช่วยจัดการงานขายได้อย่างไรบ้าง



เทคโนโลยีซอฟต์แวร์ช่วยจัดการงานขายอย่างไรบ้าง


          หากคุณทำงานด้านการตลาดและการขาย บริหารงานขาย เป็นผู้จัดการฝ่ายขาย หรือเป็นเจ้าของกิจการ คุณย่อมมีเป้าหมาย มีความต้องการรักษาฐานลูกค้าที่มีอยู่ และหาลูกค้าใหม่ๆเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง      ....แต่คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่า การบริหารงานของคุณจะสามารถตอบโจทก์ดังต่อไปนี้
  • การดำเนินงานในแต่ละวันของคุณและทีมงาน สอดคล้องกับเป้าหมายที่คุณได้ตั้งไว้
  • คุณมีระบบงาน ที่ส่งเสริมลูกน้อง หรือทีมขาย ให้ทำงานได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น ทันยุค ทันสมัย
  • คุณมีระบบงาน ที่ช่วยผลักดันให้ได้งานบริการที่ได้มาตรฐาน ลูกค้าพึงพอใจในบริการที่ได้รับจากทีมงานของคุณ
  • โดยที่คุณทราบความเคลื่อนไหว สามารถให้คำแนะนำ สามารถชี้นำให้ทีมงานไปถึงเป้าหมายที่ต้องการได้
          ด้วยเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ในยุคปัจจุบัน ระบบงานที่ว่านี้ ไม่ได้ยากเกินไป ไม่ได้แพงเกินไปอีกต่อไป      และหากคุณไม่มีระบบงานดังกล่าว    คุณอาจเสียโอกาส ไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง และทำให้คุณก้าวไม่ทันการแข่งขัน

     
เทคโนโลยีซอฟต์แวร์ที่ช่วยจัดการงานขายมีอยู่ 2-3 แบบ ได้แก่


1. Sales Force Automation (SFA) คือ ระบบจัดการงานขาย ที่ช่วยคุณบริหารงานขายที่มีลักษณะค่อนข้างซับซ้อน เช่นมีรอบการขาย (Sales Cycle) ที่กินเวลาเป็นเดือน จึงจะปิดงานขายได้ การทำงานลักษณะนี้ต้องการระบบเข้ามาช่วยการติดตาม การให้ข้อเสนอแก่ลูกค้าทั้งทางด้านเทคนิคและด้านราคา และช่วยบริหารกิจกรรมงานขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการ       นอกจากนี้ในธุรกิจกระจายสินค้าไปยังร้านค้าปลีก หรือศูนย์บริการ   ก็นิยมนำ SFA เข้ามาใช้เพื่อติดตามปริมาณการซื้อ ความถี่ที่ซื้อ บริหารสินค้าคงคลัง และบริหารวงเงินขายเชื่อ เป็นต้น
 

2. Customer Relationship Management (CRM) คือ ระบบจัดการฐานข้อมูลปฎิสัมพันธ์กับลูกค้าครอบคลุมงานก่อนการขาย (Pre-Sales) การขาย (Sales) และงานบริการหลังการขาย (Post-Sales) หมายความว่าได้รวม Sales Force Automation System ไปด้วยนั่นเอง       ระบบ CRM จะนำเสนอข้อมูลต่อผู้ใช้งาน ในลักษณะที่ "มองลูกค้าเป็นศูนย์กลาง" หรือ Customer Centric  ซึ่งทำให้คุณ และ ทีมงานที่เข้าถึงข้อมูล เกิดความเข้าใจในตัวตน ในความต้องการของลูกค้า และในการสร้างประสบการณ์อันดี สร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า หรือที่เรียกว่า Customer Experience Management (CEM)

3. Point-of-Sales (POS) คือระบบจัดการงานขายหน้าร้าน โดยเน้นที่ความเร็วในการปฎิบัติงาน เช่น เปิดออร์เดอร์ พักออเดอร์ รับชำระเงิน พิมพ์ใบเสร็จ โดยให้ความสำคัญทีี่ความเสถียรของระบบ  เช่นเมื่อมีลูกค้าเข้าซื้อมากๆ ระบบควรจะต้องทำงานเร็ว แม่นยำ และไม่ล่มกลางคัน   ไม่ทำให้ลูกค้าต้องรอนาน      ระบบ POS อาจจะช่วยเก็บข้อมูลขายและเชื่อมโยงข้อมูลส่งต่อไปยังระบบ CRM เพื่อให้ทราบถึง ยอดซื้อ พฤติกรรมซื้อ รวมถึงการสะสมแต้ม/การแลกของรางวัล (Point and Point Redemption)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น